ป.ป.ช.ยุค"สุชาติ"นำทัพ คดีชั้น14ทักษิณจบแบบไหน?

2 คดีสำคัญทางการเมืองในมือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในยุคที่ต่อจากนี้จะมีผู้นำหน่วยคนใหม่อย่างเป็นทางการคือ สุชาติ ตระกูลเกษมสุข ที่ได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ แทน พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ที่พ้นจากตำแหน่งไปหลายเดือน ถูกจับตามองมากที่สุดในเวลานี้คงไม่พ้น

หนึ่ง คดีชั้น 14 รพ.ตำรวจ กรณีรับทักษิณ ชินวัตร เข้าพักรักษาตัวเป็นเวลา 6 เดือนเต็ม จนทำให้ทักษิณไม่ต้องกลับเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 16 ธันวาคม 2567 ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนคำร้องดังกล่าวเพื่อไต่สวนเจ้าหน้าที่รัฐ สังกัดกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจรวม 12 คน  

สอง คดีกล่าวหาอดีต สส.พรรคก้าวไกลรวม 44 คน เข้าชื่อกันเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่ถูกร้องว่า เป็นการเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม 

พิเคราะห์เส้นทางคดี ประเมินกันว่า คดีกล่าวหา อดีต สส.พรรคก้าวไกล ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม น่าจะจบในชั้น ป.ป.ช.ก่อนคดีชั้น 14  แม้คำร้องคดีนี้จะมีผู้เกี่ยวข้องต้องโดนไต่สวนถึง 44 คน ที่มากกว่าคดีชั้น 14 ที่มี 12 คนก็ตาม ด้วยมองว่า คดีพรรคก้าวไกล ป.ป.ช.เข้าดำเนินการก่อนคดีทักษิณชั้น 14 หลายเดือน

ผนวกกับการพิจารณาก็มีคำวินิจฉัยของศาล รธน.ในคดี ยุบพรรคก้าวไกล-ล้มล้างการปกครอง เป็นร่มใหญ่ให้ ป.ป.ช.พิจารณาไว้แล้ว เหลือเพียงแค่ดูว่า อดีต สส.ก้าวไกลทั้งหมดมี เจตนา อย่างไรในการเสนอแก้ไข 112 รวมถึงพิจารณาว่าคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา หรือประเด็นการสู้คดีของทั้งหมด ที่น่าจะใช้แนวทางการสู้คดีเหมือนกันหมด สุดท้ายแล้ว ป.ป.ช.ฟังได้ว่า ชี้แจงแล้วฟังขึ้นหรือไม่ หักล้างคำตัดสินของศาล รธน.ได้หรือไม่-สามารถร้องศาลฎีกาเอาผิดข้อหาฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมได้หรือไม่?

  ขณะที่เรื่องการไต่สวน-สอบสวนคดีชั้น 14 อาจจะมีความสลับซับซ้อนอยู่พอสมควร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับข้อมูล-หลักฐานทางการแพทย์ ที่ ป.ป.ช.คงไม่ชำนาญเท่าใดนัก 

ส่งผลให้มองกันว่า ป.ป.ช.กำลังรอผลการพิจารณาสอบสวนจริยธรรมแพทย์ รพ.ตำรวจ ที่ร่วมกันรักษานายทักษิณ ที่ตอนนี้อนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจของแพทยสภาฯ กำลังเร่งสอบสวนที่คาดว่าน่าจะมีข้อสรุปภายในเดือนมีนาคม-เมษายน เพื่อ ป.ป.ช.จะได้นำผลสอบดังกล่าวมาพิจารณาประกอบคดีชั้น 14 ได้ ที่จะทำให้การทำงานของ ป.ป.ช.ง่ายและเร็วขึ้น

นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีคดีสำคัญๆ ในมือ ป.ป.ช.อีกหลายเรื่องที่สังคมสนใจ เช่น คดี 2 อดีตบิ๊กสีกากี-ยศ พล.ต.อ. ที่โยงถึง "เว็บพนันออนไลน์" ซึ่ง ป.ป.ช.รับเรื่องไว้พิจารณาคือ กรณีกล่าวหา พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล อดีต ผบ.ตร. กับพวก เรียกรับทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดเกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ และ คดีบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ที่ก็โดน ป.ป.ช.สอบเรื่องเว็บพนันออนไลน์เช่นกัน

ท่ามกลางกระแสข่าว คดีบิ๊กโจ๊ก จะมีความคืบหน้าทางคดีที่สำคัญจาก ป.ป.ช.ในสัปดาห์นี้ เป็นต้น

ทั้งหมดคือคำร้อง-คดีดังที่อยู่ในมือ ป.ป.ช.ยุคที่มี สุชาติ-อดีตผู้พิพากษา กำลังขึ้นมาเป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่ในเร็ววันนี้

สำหรับสุชาติเข้ารับตำแหน่ง ป.ป.ช. เมื่อ 10 ก.ค.2563 ทำให้เหลือเวลาในการทำหน้าที่ ประธาน ป.ป.ช.อีกประมาณ 2 ปีเศษ เพราะต้องพ้นจากตำแหน่งในปี พ.ศ.2570

จึงน่าติดตามว่า สุชาติจะนำพาองคาพยพ ป.ป.ช.ไปในทิศทางใด โดยเฉพาะกับการไต่สวน-สอบสวนคดีที่มีเดิมพันการเมืองและทางอำนาจสูงอย่าง 3-4 คดีดังข้างต้น

เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า สุชาติ-อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งมีนบุรี ที่ได้รับเลือกให้เป็นประธาน ป.ป.ช.เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยมติ 5 ต่อ 2 ทำให้เอาชนะรุ่นพี่ตุลาการ เอกวิทย์ วัชชวัลคุ อดีตอธิบดีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 ที่เป็นคู่ชิงประธาน ป.ป.ช.มาได้ ตัวว่าที่ประธาน ป.ป.ช.ถูกจับตามองตั้งแต่ สว.ชุดที่แล้ว ที่มาจาก คสช.เลือกด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นให้เข้าไปเป็น ป.ป.ช. เพราะสุชาติก่อนหน้านี้เคยเป็น "สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ" หรือ สนช.ในยุค คสช.หลังรัฐประหารปี 2557 ทำให้ตอนนั้นมีการตั้งคำถามถึงเรื่องความเป็นกลางพอสมควร

ที่สำคัญเมื่อปีที่แล้วก็มาถูก "บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์" ออกมาทิ้งบอมบ์หลังทำหนังสือร้องเรียนเมื่อช่วงเมษายน 2567 ถึง คณะกรรมการ ป.ป.ช.และประธานรัฐสภา หลังจาก ป.ป.ช.รับคดีบิ๊กโจ๊กไว้พิจารณา หลังสุชาติลงมติในทางไม่เป็นคุณกับบิ๊กโจ๊ก โดยบิ๊กโจ๊กอ้างว่า ตัวเขาเคยพานายสุชาติไปหาพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บ้านป่ารอยต่อฯ  2 รอบ หลังจากที่นายสุชาติสมัครเป็น ป.ป.ช.จนต่อมาได้เป็น ป.ป.ช. และตอนนี้กำลังขึ้นเป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่

เสียงสะท้อน “กลุ่มอำนาจเก่า” ยังคงมีอำนาจในตึก ป.ป.ช.สนามบินน้ำ จึงเริ่มถูกพูดถึง หลังจากที่สุชาติกำลังเข้ารับไม้ต่อจาก พล.ต.อ.วัชรพล ที่ก็เคยเป็นอดีตหัวหน้าสำนักงานพลเอกประวิตร ตอนช่วงรัฐบาล คสช.ยุคแรกๆ 

กระนั้นเรื่องนี้อยู่ที่การทำหน้าที่ของนายสุชาติที่เป็นอดีตผู้พิพากษา ซึ่งเป็นอาชีพที่ให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นกลาง ความเป็นธรรมในการทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรม ทำให้น่าเชื่อได้ว่า นายสุชาติก็คงทำหน้าที่ในฐานะประธาน ป.ป.ช.ได้เป็นอย่างดี แต่ก็อาจถูกจับจ้องพอสมควร ซึ่งคงต้องให้การทำงานเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวเองต่อไป 

ก่อนหน้านี้ “สุชาติ-ว่าที่ประธาน ป.ป.ช.” คนใหม่ บอกกับ "ไทยโพสต์" ไว้เมื่อนานมาแล้วว่า การเป็นผู้พิพากษากับ ป.ป.ช.มีความแตกต่างกัน เพราะการทำงานของศาลเป็นแบบตั้งรับ อัยการส่งสำนวนฟ้องมาให้ศาล แล้วศาลก็มาพิจารณาโดยจำเลยก็พิสูจน์ตัวเอง แล้วศาลชั่งน้ำหนักพยานหลักฐาน แต่การไต่สวนของ ป.ป.ช.ต้องพิจารณาว่าแต่ละสำนวนเมื่อใดถึงจะเพียงพอ พยานหลักฐานแต่ละเรื่องครบถ้วนเพียงพอหรือยัง โดย skill ส่วนตัวที่เคยทำมา พอจะรู้ได้ว่าเรื่องไหน ถ้าส่งสำนวนของ ป.ป.ช.ไปแล้ว ศาลจะเห็นไปทางไหน จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเชื่อว่าจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์กับการทำงานในตำแหน่ง ป.ป.ช.ได้ในหลายเรื่อง

“ผมต้องเอาการทำงานมาพิสูจน์ เมื่อทุกคนจดจ้องอยู่ เรายิ่งต้องทำงานให้มีประสิทธิภาพ ทำอย่างตรงไปตรงมา อย่าลืมว่าผมเป็นผู้พิพากษามาก่อน ที่ก็ต้องอยู่บนหลักการคือ ฟังความทั้ง 2 ฝ่าย” สุชาติ ว่าที่ประธาน ป.ป.ช.คนใหม่เคยบอกไว้.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เปิดผลสอบ "แพทยสภา" ฟอกขาวหรือเอาผิด หมอรักษา "ทักษิณ"

ในการลุกขึ้นชี้แจงของ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต่อที่ประชุมสภาฯ เมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ในประเด็นเรื่อง ดีลปีศาจ-การกลับประเทศไทยของทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรี และการเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ รพ.ตำรวจ เป็นเวลา 6 เดือน ทำให้นายทักษิณไม่ต้องรับโทษติดคุกแม้แต่วันเดียว

‘อิ๊งค์’สะกดอารมณ์ฝ่าซักฟอก2วัน รอลุ้นคะแนนโหวต-งูเห่าสมทบ!

ผ่านศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ใช้เวลา 2 วัน 24-25 มีนาคม ก่อนลงมติวันนี้ 26 มีนาคม 2568 ซึ่งลีลาของ “นายกฯ อิ๊งค์” ในการแจงข้อซักฟอกถือว่าสามารถสะกดอารมณ์ได้ดี ไม่ปล่อยหมัดเด็ดตรงๆ ใส่ฝ่ายค้าน แต่ใช้ความนิ่งตอบเจ็บๆ ในบางช่วงเช่นกัน

‘ฝ่ายค้าน’ซักฟอก‘นายกฯอิ๊งค์’ ขยายแผล ปูทาง ยื่น 'ป.ป.ช.'

เปิดฉากกันไปแล้ว ศึกซักฟอก อุ๊งอิ๊ง-น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้คอนเซปต์ ‘ดีลแลกประเทศ’ วันแรก ไฮไลต์สำคัญ ช่วงเช้าหนีไม่พ้นการเปิดหัวของ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และการลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งแรกของ บิ๊กป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

ระเบิดศึกซักฟอก ดีลแลกประเทศ ขยี้"นายกฯอิ๊งค์"ขย้ำ"ทักษิณ"

หลังการเมืองไทยว่างเว้นจากการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจมาร่วม 2 ปีเศษ เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุด เกิดขึ้นเมื่อเดือน ก.ค.2565 ตอนรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มาวันนี้สิ้นสุดการรอคอยกับศึกซักฟอก-เปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ซักฟอก ‘ดีลแลกประเทศ’ ฟ้องสังคม ‘ชินวัตร’ ได้อะไร

จับตาอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ระหว่างวันที่ 24-25 มีนาคม ตั้งแต่เช้าจนถึงตี 5 และลงมติในวันที่ 26 หรือ 27 มีนาคมนี้ ภายใต้ธีม

สแกนข้อมูล‘ฝ่ายแค้น’ แตกหักหรือแบล็กเมล

นอกจากบทบาทของพรรคประชาชน (ปชน.) ในการซักฟอกระหว่างวันที่ 23-24 มี.ค. ต่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ภายใต้ธีม “ดีลแลกประเทศ” ว่า สุดท้ายจะทำหน้าที่สมศักดิ์ศรีหรือไม่