น้ำมันพุ่งคลังจ่อหั่นจีดีพี ชงเบรกใช้ราคาสิงคโปร์

“กรณ์” ขอบคุณรัฐบาล แก้ปัญหาราคาน้ำมัน เก็บกำไรโรงกลั่น ลดเบนซิน 1 บาทต่อลิตร เตรียมเสนอทางออกช่วยประชาชนต่อ ขณะที่ "บิ๊กตู่" เชื่อหากสงครามยูเครน-รัสเซียดีขึ้น ราคาน้ำมันและพลังงานจะคลี่คลาย  "สนธิรัตน์" เสนองดอ้างอิงราคาสิงคโปร์ชั่วคราว "คลัง" เตรียมปรับจีดีพีปี 2565 ใหม่ รับน้ำมันแสนแพงกดดันเศรษฐกิจ

เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2565 ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการดูแลเรื่องราคาพลังงานและน้ำมันว่า รัฐบาลจะทำให้ดีที่สุด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศเป็นสำคัญ ทั้งนี้ เชื่อว่าหากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซียดีขึ้น จะทำให้สถานการณ์ราคาน้ำมันและพลังงานคลี่คลายดีขึ้น

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า ได้ขอบคุณรัฐบาลที่ขานรับประเด็นเรื่องค่าการกลั่นโดยเร็ว ภายหลังที่รัฐบาลประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจฉุกเฉิน เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2565 โดยมีมติว่า เก็บกำไรโรงกลั่นและโรงแยกก๊าซ 8,000  ล้านบาทต่อเดือน โดยลดภาระเบนซิน 1 บาทต่อลิตร และอุดหนุนเงินเข้ากองทุนน้ำมัน เพื่อเสริมสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ  โดยระบุว่าขอให้ถือว่าเรามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง ทีมทำงาน พรรคกล้า - KLA Party ดีใจที่วันนี้ประชาชนได้เงินกลับมา 24,000 ล้านบาททันที

 “ส่วนแค่นี้ดีที่สุดแล้วหรือยัง ไว้ทางพรรคจะเสนอแนวคิดให้พิจารณาก่อนเรื่องนี้เข้าประชุม ครม.สัปดาห์หน้า” นายกรณ์กล่าว

ที่ที่ทำการพรรคสร้างอนาคตไทย   พรรคสร้างอนาคตไทย นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค และนายสันติ กีระนันทน์ กรรมการบริหารพรรค ร่วมแถลงข่าวถึงมาตรการการแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง เพื่อลดผลกระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และการเติบโตของเศรษฐกิจ ในช่วงที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีความผันผวนในระดับสูงจากผลกระทบสงครามรัสเซีย-ยูเครน

นายสนธิรัตน์ ในฐานะอดีต รมว.พลังงาน กล่าวว่า มาตรการระยะเร่งด่วนที่สามารถทำได้และต้องทำทันที คือการสร้างสมดุลการอ้างอิงราคาหน้าโรงกลั่นสิงคโปร์ชั่วคราว หัก FIL (ค่าขนส่ง+ค่าประกันภัย+ค่าการสูญเสียจากการขนส่ง) ในช่วงที่เกิดภาวะวิกฤตเช่นนี้ ที่ประชาชนลำบาก การงดการอ้างอิงราคาสิงคโปร์ชั่วคราวถือเป็นการลดต้นทุนแฝงในราคาน้ำมันได้ โดยรัฐต้องเป็นเจ้าภาพในการเข้าไปดูแล และหารือกับกลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่น เพื่อหาจุดตรงกลางที่สามารถเฉลี่ยทุกข์เฉลี่ยสุขร่วมกันได้

ด้านนายสันติกล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมากลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันมีกำไรจากค่าการกลั่นไต่ระดับค่อนข้างสูง โดยเทียบตัวเลขย้อนหลัง 5 ปี พบว่ามีกำไรมหาศาล โดยคาดการณ์จากผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2565 มีแนวโน้มที่จะเห็นกลุ่มโรงกลั่นมีกำไรพุ่งขึ้นกว่า 28% หากคิดเป็นผลประกอบการเต็มปี นอกจากนั้นโรงกลั่นใหญ่ 3 โรงซึ่งเป็นผู้นำตลาด ล้วนแล้วแต่มี ปตท.เป็นผู้ถือหุ้นแต่ละโรงกลั่นไม่น้อยกว่า 45% ของหุ้นทั้งหมด และ ปตท.เองก็มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้น 51.11% และยังมีกองทุนรวมวายุภักษ์ถือหุ้นอีก 12.16% ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโรงกลั่นก็คือรัฐนั่นเอง

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่  บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีกก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) ที่ 15.59 บาท/กิโลกรัม และขยายระยะเวลาตรึงราคาขายปลีก NGV สำหรับผู้ประกอบอาชีพขับขี่รถแท็กซี่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่ 13.62 บาท/กิโลกรัม ในโครงการ “เอ็นจีวี เพื่อลมหายใจเดียวกัน” ออกไปอีก 3 เดือน จนถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 รวมเป็นเงินอีกกว่า 2,800 ล้านบาท

นอกจากนี้ ปตท.อยู่ระหว่างพิจารณาขยายระยะเวลาการช่วยเหลือส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม (LPG) แก่ผู้มีรายได้น้อยที่เป็นร้านค้า หาบเร่ แผงลอยอาหาร ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวนเงิน 100 บาท/คน/เดือน ที่จะหมดอายุในเดือนมิถุนายน 2565 นี้ ออกไปอีก 3 เดือน จนถึง 30 กันยายน 2565 ทั้งนี้ ปตท.ได้มีการให้ความช่วยเหลือค่าซื้อก๊าซ LPG โครงการบรรเทาผลกระทบจากการจากการลอยตัวราคา LPG  มาตั้งแต่ตุลาคม 2562

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ในเดือน ก.ค.2565 กระทรวงการคลังเตรียมปรับประมาณการเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปี 2565 ใหม่ จากปัจจุบันคาดการณ์ว่าจะขยายตัวที่ 3.5% โดยต้องมีการพิจารณาในหลายๆ ปัจจัย เพราะมีเครื่องชี้วัดเศรษฐกิจหลายตัวที่มีการเปลี่ยนแปลงไป อาทิ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ 0.75% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 1.50-1.75% ทำให้มีส่วนต่างกับอัตราดอกเบี้ยไทยค่อนข้างมาก อาจส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกบ้าง แต่เชื่อว่าจะเป็นเพียงระยะหนึ่ง พอทุกอย่างเข้าที่เรียบร้อย การไหลเข้า-ออกของเงินทุนก็จะเป็นปกติ สำหรับปัจจัยลบที่มีผลกระทบกับเศรษฐกิจไทยมากที่สุดในขณะนี้ คงเป็นเรื่องสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นมาก เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญในการพิจารณา

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “ไขข้อข้องใจ...รับมือค่าไฟครึ่งปีหลัง” จัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.2565 โดยระบุว่าแนวโน้มการปรับค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดสุดท้ายของปีนี้ (เดือน ก.ย.-ธ.ค.65) มีโอกาสปรับสูงขึ้นจากประมาณการไว้เดิม ที่คาดว่าจะปรับขึ้นประมาณ 40 สตางค์ต่อหน่วย เนื่องจากสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เข้ามาผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นประมาณกว่า 40% จากเดิมคาดว่าจะใช้ LNG ประมาณ 30%

ขณะเดียวกันที่ต้นทุนราคาน้ำมันดีเซล ปรับสูงขึ้น และกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยลดลง ประกอบกับการรับก๊าซจากเมียนมามีแนวโน้มลดลง อีกทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ จากเดิมประมาณการอยู่ที่ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แต่การปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดสุดท้ายของปีนี้จะเป็นเท่าไหร่นั้น ยังต้องรอประเมินสถานการณ์ค่าเชื้อเพลิงที่แท้จริงอีกครั้งในช่วงกลางเดือน มิ.ย.นี้

ที่สวนหย่อมห้าแยกลาดพร้าว วันเดียวกันนี้ กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มโรนิน ฝั่งธน ไม่เอาเผด็จการ นำโดยนายธนเดช ศรีสงคราม หรือม่อน อาชีวะ นัดรวมตัวบริเวณสวนหย่อมห้าแยกลาดพร้าว เพื่อจัดกิจกรรม “คาร์ม็อบประชาชนจะไม่ทน” เคลื่อนขบวนไปที่กระทรวงพลังงาน เพื่อทวงถามความคืบหน้าขอให้ลดราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในแต่ละวัน เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นในแต่ละวัน ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน

ทั้งนี้ ในช่วงบ่าย กลุ่มมวลชนที่มีอยู่ประมาณ 50 คน ได้ทำการปิดถนนคู่ขนานวิภาวดีไม่ยอมให้รถผ่าน บังคับรถที่มุ่งหน้าดอนเมืองให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยวิภาวดี 11 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกระทรวงพลังงาน ทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก รถที่ผ่านมาต้องจำยอมเข้าไปในซอยตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำหนด ซึ่งถนนดังกล่าวสามารถเชื่อมถนนกำแพงเพชร 6 ได้   การปิดถนนของกลุ่มมวลชนทำให้การจราจรเป็นอัมพาตทันที จนเจ้าหน้าที่ต้องเข้าเคลียร์พื้นที่จนหวิดเกิดการปะทะกัน.