แก๊งสารวัตรซัวนอนคุก ตร.จ่อ‘อายัดทรัพย์’เพิ่ม

กองปราบฯ ควบคุมตัว “จิ๋ว” คนสนิทสารวัตรซัว พร้อมผู้ร่วมขบวนการพนันออนไลน์ ส่งฝากขังศาลอาญาผลัดแรก 12 วัน พร้อมคัดค้านประกันตัว  เตรียมขยายยึดทรัพย์เพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พนักงานสอบสวนกองปราบปรามควบคุมตัวนายธีรพงศ์ หรือจิ๋ว ทองสุวรรณ อายุ 34 ปี คนสนิทของ พ.ต.ท.วสวัตติ์ มุครสกุล หรือสารวัตรซัว อดีตสารวัตรฝ่ายโยธาธิการ 2 กองโยธาธิการ สำนักงานส่งกำลังบำรุง และพวกรวม 6 คน ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังผลัดแรก หลังถูกจับกุมเมื่อวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งทั้งหมดให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และหลักฐานส่วนใหญ่เป็นข้อมูลทางเทคโนโลยีที่ผู้ต้องหาสามารถเข้าถึงได้โดยง่าย จึงเกรงว่าจะไปทำลายหลักฐาน

ทั้งนี้ บช.ก.ได้รวบรวมพยานหลักฐานจับกุมบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายรับพนันออนไลน์ของสารวัตรซัว 14 หมายจับ ประกอบด้วย สารวัตรซัวและนายจิ๋ว 2 หมายจับ และหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องในคดีพนันออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายสารวัตรซัวอีก 12 หมายจับ ซึ่งผู้ต้องหา 2 ใน 6 คน ที่ถูกควบคุมไปฝากขังนั้น ถูกดำเนินคดีข้อหาเพิ่มเติม เนื่องจากมียาเสพติดไว้ในครอบครอง และเป็นการจับกุมตามความผิดซึ่งหน้า

พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) เผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างขยายผลเพื่อออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เช่น พนักงานบริษัทในเครือของสารวัตรซัว และกลุ่มบัญชีม้ารับเงินพนันออนไลน์ ส่วนสารวัตรซัวจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการประสานเข้ามอบตัว จึงถือว่ามีพฤติกรรมหลบหนี

มีรายงานว่า พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มีคำสั่งให้ขยายผลติดตามจับกุมกลุ่มบัญชีม้าที่คาดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายพนันออนไลน์ของสารวัตรซัว โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ปทุมธานี และนนทบุรี ที่ก่อนหน้านี้เคยเข้าตรวจค้นไปแล้ว แต่ผู้ต้องหาบางคนไหวตัวทันหลบหนีออกจากพื้นที่ไปก่อน ส่วนการยึดอายัดทรัพย์ของสารวัตรซัวในภาคตะวันออก อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารข้อมูลเพื่อประสานกรมที่ดินยืนยันเอกสารว่าเป็นเครือข่ายสารวัตรซัวหรือไม่ รวมทั้งจะขยายผลดำเนินการกับผู้ต้องหาและทรัพย์สินที่เหลืออีกจำนวนมาก โดยจะลงพื้นที่ตรวจค้นเป้าหมายเพิ่มเติมในเร็วๆ นี้

สำหรับข้อมูลธุรกิจของสารวัตรซัวในเอกสารจดทะเบียนบริษัท มีชื่อถือหุ้นและหรือเป็นกรรมการโดยตรงและโดยอ้อม 10 บริษัท รวมทุนจดทะเบียนเฉพาะ 4 แห่ง 1,248 ล้านบาท ประกอบด้วย บริษัทเน็คซ์ เซ็พ เพาเวอร์ฯ 548 ล้านบาท, บริษัท ไวเพย์ฯ 400 ล้านบาท, บริษัท ในหัวกรุ๊ปฯ 200 ล้านบาท และยังก่อตั้งทุเรียนแลนด์ ใน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อเดือน ส.ค. 2565 อีกด้วย

ส่วนที่ศาลอาญา พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม นำตัวนายนรินทร มีคำ, น.ส.เกศกนก บัวแดง และนายชาตรี ไพศาลชนากิจ ผู้ต้องหาที่ 1-3  กระทำผิดฐานร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อ ช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่น หรือเข้าพนันทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงาน และร่วมกันฟอกเงิน

โดยระบุว่า นายนรินทรเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นบัญชีพักเงินของเว็บไซต์การพนัน โดยเมื่อเดือน มี.ค.-ก.ย.2565 มีเงินหมุนเวียนรวม 15,239,141 บาท ส่วน น.ส.เกศกนก เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นบัญชีรับฝากเงินสด เพื่ออำพรางการทำธุรกรรม ก่อนโอนกระจายไปยังกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้อง และบัญชีของนายชาตรี  ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารกสิกรไทย เป็นบัญชีพักเงินของเว็บไซต์การพนัน ตัดยอดส่วนหนึ่ง และโอนต่อเพื่อไปถอนเงินสดออกต่อไป

ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้บรรยายสรุปฟ้องก่อนยืนยันว่าการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 40-50 ปาก จึงขอฝากขังผู้ต้องหาทั้งหมดมีกำหนด 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 5-16 มี.ค.2566 ส่วนท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัว และเมื่อครบเวลาราชการเเล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวผู้ต้องหาเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ โดยวันเดียวกัน พนักงานสอบสวนกองปราบฯ ยังคุมตัวนายธีรพงศ์ไปฝากขังยังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยคัดค้านการประกันตัวเช่นกัน ซึ่งศาลพิจารณาคำร้องเเล้วอนุญาตฝากขังได้ ต่อมานายธีรพงศ์ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว แต่ศาลยกคำร้องไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง