นักวิจัย คณะวิทย์ฯ มช. ศึกษาผลของการปลูกต้นไม้ที่มีต่อการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในทวีปเอเชีย พบว่าการปลูกป่าในพื้นที่ที่มีต้นไม้บางส่วนหลงเหลืออยู่ประสบความสำเร็จมากกว่าการปลูกป่าในพื้นที่ป่าถูกทำลายโดยสิ้นเชิง ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อความพยายามที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกในการฟื้นฟูป่าเขตร้อน
งานวิจัยในหัวข้อ "The road to recovery: a synthesis of outcomes from ecosystem restoration in tropical and sub-tropical Asian forests" ทีมนักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำโดย รศ.ดร.สตีเฟ่น เอลเลียต หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า ภาควิชาชีววิทยา และ น.ส.เบญจพรรณ มโนหาญ นักศึกษาระดับปริญญาโท สาขาชีววิทยา ซึ่งเป็นการศึกษาผลของการปลูกต้นไม้ที่มีผลต่อการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าในพื้นที่เขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในทวีปเอเชีย ด้วยการสังเคราะห์ข้อมูลการตาย และการเติบโตของต้นไม้ที่ปลูกในพื้นที่ 176 แปลง รวมทั้งแปลงสาธิตของหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (FORRU-CMU) และเปรียบเทียบการฟื้นตัวทางโครงสร้างและความหลายทางชีวภาพของแปลงฟื้นฟูและแปลงป่าฟื้นตัวตามธรรมชาติ
งานวิจัยอธิบายผลจากความพยายามปลูกป่าในพื้นที่ป่าถูกทำลายโดยสิ้นเชิงว่าประสบความสำเร็จน้อยกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับการปลูกป่าในพื้นที่ที่มีต้นไม้บางส่วนหลงเหลืออยู่ ต้นกล้าที่ปลูกในพื้นที่ที่มีต้นไม้เหลืออยู่มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าประมาณร้อยละ 20 ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นของมาตรการป้องกัน และดูแลต้นกล้าที่ปลูกอย่างเข้มข้นในพื้นที่ที่ถูกรบกวนอย่างรุนแรง อย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่ท้าทายดังกล่าวยังไม่สามารถบรรลุได้ในปัจจุบัน เนื่องจากขาดเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการทำให้เกิดระบบนิเวศป่าที่สามารถฟื้นตัวได้อีกครั้ง
หนึ่งในวิธีการฟื้นฟูป่าที่งานวิจัยชิ้นนี้แนะนำคือ วิธีพรรณไม้โครงสร้าง ซึ่งเป็นวิธีการที่หน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า (FORRU) คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำมาปรับใช้ วิธีการนี้แนะนำให้ปลูกพรรณไม้ท้องถิ่นที่พบในป่าธรรมชาติใกล้เคียง 20-30 ชนิด จำนวน 500 ต้นต่อไร่ โดยต้นไม้ที่ปลูกควรมีความทนทานต่อแสงแดดและความแห้งแล้ง มีทรงพุ่มกว้างหรือสร้างสารเคมีที่ยับยั้งการเจริญของวัชพืช มีลักษณะดึงดูดสัตว์ผู้กระจายเมล็ด เช่น ดอกหรือผลเป็นที่ชื่นชอบของสัตว์ผู้กระจายเมล็ด และสามารถเพาะพันธุ์ได้ง่ายในเรือนเพาะชำ
ทั้งนี้ การฟื้นฟูป่าต้องอาศัยความร่วมมือของชุมชนในพื้นที่จะช่วยต่อยอดสู่อนาคตที่พื้นที่ป่าที่ได้รับการฟื้นฟูจะกลายเป็นแหล่งอาหารและรายได้ให้แก่ชุมชน ทีมนักวิจัยได้ให้ความรู้แก่ชุมชนตั้งแต่การผลิตกล้าไม้ การเตรียมพื้นที่ปลูก การปลูกและดูแลแปลง ตลอดจนการป้องกันไฟป่าและการเก็บข้อมูลการรอดชีวิตของต้นกล้า ช่วยให้ชุมชนสามารถฟื้นฟูป่าได้อย่างยั่งยืน สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและเยี่ยมชมเว็บไซต์ของหน่วยวิจัยการฟื้นฟูป่า มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ที่: https://www.forru.org/th
แม้ว่าการฟื้นฟูป่ามักมีอุปสรรคและต้องใช้เวลานาน แต่หากมีการพิจารณาบริบทของแต่ละพื้นที่ เลือกชนิดของพรรณไม้ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่ ขนาดและจำนวนต้นไม้ที่ควรปลูก การดูแลแปลงฟื้นฟูอย่างใกล้ชิด การเก็บข้อมูลการรอดและการเติบโตของกล้าไม้ในแปลงฟื้นฟูเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อการฟื้นฟู การดำเนินงานเหล่านี้จะช่วยลดอุปสรรคที่ขัดขวางการฟื้นฟูป่าได้ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในพลังจากความตั้งใจของคนนับล้านที่กำลังปลูกต้นไม้พันล้านต้นทั่วโลก เพื่อช่วยฟื้นความหลากหลายทางชีวภาพ และช่วยบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก โดยการลดระดับของแก๊สคาร์บอนไดออกไซค์ในชั้นบรรยากาศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มช. ผนึกกำลัง บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด ก้าวสู่ "มหาวิทยาลัย AI" CMU AI University แห่งแรกในภาคเหนือของประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) จับมือ บริษัท ดับบลิวทีเอช โฮลดิงส์ จำกัด นำโดย คุณวิชัย ทองแตง ตอกย้ำการก้าวสู่ CMU AI University พร้อมผลักดันมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
พลิกชีวิตชุมชนเชียงใหม่! พอช.-มช. ผนึกกำลังขับเคลื่อน ศูนย์เด็กเล็ก-คลองแม่ข่า สู่อนาคตที่เข้มแข็ง
เชียงใหม่ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) จัดประชุมหารือแนวทางสร้างความร่วมมือกันในขับเคลื่อน การพัฒนาชุมชนท้องถิ่นให้เข้มแข็ง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาศูนย์เด็กเล็กและพื้นที่ริมคลองแม่ข่า เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่
แพทย์ มช. ตอกย้ำความเป็นเลิศ คว้ารางวัล Thailand Quality Class Plus : Customer ยกระดับมาตรฐานองค์กรทัดเทียมระดับสากล
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้รับรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศที่มีความโดดเด่น ด้านลูกค้า (Thailand Quality Class Plus : Customer) จากเวทีรางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality
มช. นำ Big Data พัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมบูรณาการ ลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ภายใต้ โครงการศึกษาและพัฒนาแนวทางการเก็บข้อมูลการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภาคพลังงานในภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการของประเทศไทย
ชาวเชียงใหม่อุ่นใจ สสส.-มช. เดินหน้าโครงการ "Chiang Mai Greentopia" ช่วยลดสารเคมีตกค้างในเลือดได้สูง ภายใน 2 ปี ลดเหลือ 66% จาก 90%
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ม.ค. 2568 ที่สวนผักฮักร้องขุ้ม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) ตัวแทนเกษตรกร ภาคีเครือข่าย และสื่อมวลชน ติดตามการดำเนินงานโครงการ Chiang Mai Greentopia : ต้นแบบการสร้างความมั่นคงทางอาหาร