“ยินดีจั๊ดนัก รวมพลังสานสุข” ตามไปดู"สามเณร"ออกแบบเมือง

เพราะ “โลกนี้คือห้องเรียน” สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สสส. นำโดย ดร.จิรพร วิทยศักดิ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 และสื่อมวลชน ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน “ยินดีจั๊ดนัก รวมพลังสานสุข”  ระหว่างวันที่ 25-26 พฤษภาคม 2566 ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่จังหวัดน่าน ที่มีผลลัพธ์เชิงรูปธรรม ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ด้านทักษะเท่าทันสื่อ สารสนเทศ และดิจิทัล (Media Information Digital Literacy: MIDL) และความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้สุขภาวะและเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการใช้สื่อ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สร้างแรงบันดาลใจและทัศนคติในการปรับเปลี่ยนสู่พฤติกรรมสุขภาวะ

ดร.จิรพร เปิดเผยว่า สสส.มุ่งพัฒนาพลเมืองในด้านทักษะเท่าทันสื่อสารสนเทศ และดิจิทัล (Media Information Digital Literacy: MIDL) และความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้สุขภาวะและเพิ่มโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการใช้สื่อ เพื่อพัฒนาสู่การเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลง สร้างแรงบันดาลใจและทัศนคติในการปรับเปลี่ยนสู่พฤติกรรมสุขภาวะ ด้วยการสร้างศักยภาพต่อยอดงานในพื้นที่รู้เท่าทันสื่อ ไม่ตกเป็นเหยื่อข่าวลวงข่าวปลอม ใช้กระบวนการกลั่นกรองเป็นการรับรู้ วิเคราะห์สามารถสร้างสื่อเองได้ เกิดเป็นพลเมืองมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม สร้างทักษะพลเมืองที่มีความพร้อมในการออกแบบชุมชนในการสร้างเมือง ช่วยกันสร้างเมืองที่น่าอยู่ในสังคม

ดร.จิรพรกล่าวต่อว่า น่านเป็น 1 ใน 36 พื้นที่นำร่องจากทั่วทุกภูมิภาค ที่ดำเนินโครงการเยาวชนพลเมืองรู้เท่าทันสื่อ สำหรับ “โครงการสามเณรน่านร่วมออกแบบเมืองสำหรับทุกคน” เป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกลุ่มสามเณรจำนวน 180 รูป ร่วมกันใช้ทักษะเท่าทันสื่อ เพื่อสร้างสังคมสุขภาวะ ผ่านกระบวนการพัฒนาทักษะความสามารถในการเข้าถึง เข้าใจ และคิดวิเคราะห์ สร้างสรรค์ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างรู้เท่าทันตนเอง เท่าทันสังคม และเท่าทันสื่อ กระบวนการเริ่มจากการสำรวจชุมชน เพื่อให้เข้าใจปัญหาและต้นทุน หาแนวทางแก้ปัญหา และออกแบบกิจกรรมและการสื่อสารโดยใช้สื่อวิถีวัฒนธรรมของชุมชนมาสื่อสาร นำไปสู่บทบาทของการเป็นนักสื่อสารสุขภาวะที่เท่าทันสื่อ ที่มีความเข้าใจและเห็นคุณค่าของอัตลักษณ์ที่หลากหลายในชุมชน

สามเณรเป็นกลุ่มเปราะบาง มีบทบาทเติมเต็มสังคม อุดช่องว่างด้วยการมีส่วนร่วมดูแลผู้ป่วยติดเตียงบ้านสบกอน สามเณร Care Giver รร.เชียงกลางปริยัติศึกษา ผู้ดูแลสุขภาพชุมชน ช่วยงาน อสม.ได้เป็นอย่างดี สามเณรสร้างแบรนด์ชุมชนที่วัดหนองบัว (ศิลปวัฒนธรรมไทยลื้อ) อนุสาวรีย์เจ้าหลวงเมืองล้า นาบุญนาบัว ที่ผลิตคราฟต์โซดา (ลื้อซ่า) ของชุมชน

"สสส.ภาคภูมิใจงานภาคีประสบความสำเร็จ ในการเปลี่ยนแปลงพัฒนาสู่สังคมเติมเต็มงานในพื้นที่ ถึงแม้ว่าน่านจะเป็นจังหวัดยากจนเมืองขนาดเล็ก แต่ก็สามารถสร้างต้นแบบให้เป็นเมืองสุขภาวะได้ สสส.เล็งเห็นจุดเด่นของฐานทางศิลปวัฒนธรรมน่านที่เข้มแข็งลุ่มลึกที่อยู่ภายในชุมชน จับมือกันร่วมออกแบบเมืองน่านผลิดอกออกผลเป็นต้นแบบในขณะนี้"

"การลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน 'ยินดีจั๊ดนัก รวมพลังสานสุข' ครั้งนี้ ถือเป็นการตอกย้ำความเข้มแข็งของภาคีเครือข่าย จ.น่าน ที่สะท้อนผลสำเร็จของผลงานอย่างเป็นรูปธรรม สร้างโอกาสและทางเลือกให้คนในชุมชนสามารถเข้าถึงสื่อและองค์ความรู้ที่ปลอดภัย สร้างสรรค์ และช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงข้อมูลและองค์ความรู้สุขภาพอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนมีตัวนำระบบสื่อสุขภาวะทางปัญญา เน้นให้เกิดความร่วมมือศูนย์บูรณาการทางวัฒนธรรมไทยสายใยชุมชนที่ ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน” ดร.จิรพรกล่าว

นางปิยะฉัตร พูลทรัพย์ ผู้รับผิดชอบโครงการนักสื่อเสียงสร้างคนไทยหัวใจฟู สสส. หนึ่งในนักสื่อเสียงสุขภาวะประจำสถานีวิทยุเสียงใสเรดิโอ FM100.75 MHz จ.น่าน กล่าวว่า จากข้อมูลสถานการณ์ปัญหาสุขภาพคนในชุมชน สำรวจโดยนักสื่อเสียงสุขภาวะสร้างคนไทยหัวใจฟู ปี 2565 ประชาชนใน จ.น่าน เป็นกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อ (NCDs) ถึง 50%  อาทิ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ที่สำคัญยังพบว่ามีการแชร์ข่าวปลอม ส่งต่อโฆษณาสินค้าสุขภาพที่เกินจริง ที่ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้การออกแบบการสื่อสารของนักสื่อเสียงสุขภาวะมุ่งเน้น 5 เรื่องหลัก คือ

1.ส่งเสริมกลุ่มเสี่ยงโรคไม่ติดต่อ ให้ตระหนักถึงการออกกำลังกาย 2.ลดพฤติกรรมกิน หวาน มัน เค็ม 3.ทุกช่วงวัยควรมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ 4.รู้เท่าทันสื่อ 5.อันตรายของฝุ่น PM2.5

ทั้งนี้ เริ่มดำเนินการใน 3 พื้นที่ คือ ต.ท่าวังผา ต.ป่าคา และ ต.จอมพระ โดยได้จัดกิจกรรมให้ความรู้เรื่องโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง กิจกรรมการเต้นออกกำลังกาย กิจกรรมรู้ทันสื่อลดข่าวลวง กิจกรรมประกวดภาพวาด เพื่อนำไปสู่การยกระดับนักสื่อเสียงสุขภาวะให้เป็นแกนนำสร้างเสริมสุขภาวะชุมชนแล้ว 110 คน จากนั้นคณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 8 สสส. ลงพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้โครงการ “สามเณรน่านร่วมออกแบบเมืองสำหรับทุกคน” ที่วัดหนองบัว ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน

น.ส.เข็มพร วิรุณราพันธ์ ผู้จัดการมูลนิธิส่งเสริมสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) กล่าวว่า โครงการนำแนวคิดเรื่องเมืองสำหรับทุกคน (Inclusive City) มาปรับใช้ในการดำเนินโครงการ โดยมีการดำเนินงานในโรงเรียนปริยัติธรรม 3 แห่งใน จ.น่าน ได้แก่ 1.โรงเรียนเชียงกลางปริยัติศึกษา อ.เชียงกลาง โดยร่วมกับโรงพยาบาลสุขภาพตำบล อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน และจิตอาสา พัฒนากิจกรรม “สามเณร Care Giver ผู้ดูแลสุขภาพชุมชน” ดูแลผู้ป่วยติดเตียง สร้างสรรค์สื่อศิลปะ จัดทำการ์ด และตะกร้าเยี่ยมผู้ป่วย เกิดกองทุนผู้ป่วยติดเตียง และผู้ป่วยต่อเนื่องที่บ้าน และผู้สูงอายุในชุมชน 2. โรงเรียนวัดดอนมงคลสันติสุขวิทยา อ.สันติสุข ร่วมกับภาคีฮักเมืองน่าน พัฒนากิจกรรม “ธรรมยาตรา ปลูกศรัทธาและรักษาสิ่งแวดล้อม” จัดพิธีบวชป่าร่วมกับชุมชน มีการสื่อสารผ่านข้อความบนผ้าบวชป่าที่ใช้สีผ้ามัดย้อมธรรมชาติ พิธีสืบชะตาแม่น้ำ การมัดไม้ไผ่เพื่อสร้างฝายชะลอน้ำ

น.ส.เข็มพรกล่าวต่อว่า 3.โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดนิโครธาราม อ.ท่าวังผา ได้ร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พัฒนากิจกรรม “หนองบัว-เมืองล้าแบรนด์ by สามเณร" ออกแบบตราสัญลักษณ์บนผลิตภัณฑ์ที่เคารพความหลากหลายของอัตลักษณ์ที่สืบสานมาจากไทลื้อเมืองล้า อาทิ คราฟต์โซดา (ลื้อซ่า) การทอผ้า เรือนไทลื้อ สร้างเศรษฐกิจบนฐานของชุมชน ทั้งนี้ การดำเนินงานที่ผ่านมา กระตุ้นให้เกิดความตระหนักว่าเมืองเป็นของทุกคน ทำให้เกิดการสานพลังระหว่างภาคส่วนต่างๆ ในชุมชน อันจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชน ให้เป็นเมืองสุขภาวะสำหรับทุกคน.

 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ออมสุขภาพ” รับวัยเกษียณ เตรียมพร้อมสู่สังคมผู้สูงวัย

สังคมไทยเดินเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ขณะนี้มีผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 12 ล้านคน จากจำนวนคนไทย 66 ล้านคน และในอนาคตคืออีก 60 ปีข้างหน้า

เด็กไทย 1 ใน 10 น้ำหนัก/ส่วนสูงหลุดเกณฑ์ กระทบสมอง เสี่ยงปัญหาสุขภาพจิต ป่วย NCDs

นางเบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า จากข้อมูลพัฒนาการเด็กปฐมวัยของไทย ปี 2566 โดยกรมอนามัย

วิจัยพบสังคมไทยเหลื่อมล้ำทุกมิติ สื่อสารในครอบครัวลดช่องว่างได้

ผลสำรวจเด็กและเยาวชนไทยปลอดภัยจากความรุนแรงออนไลน์ รั้งท้ายโลกเป็นอันดับที่ 29 เหนือกว่าอุรุกวัยเพียงประเทศเดียวเท่านั้น เมื่อเปรียบเทียบ 30 ประเทศทั่วโลกเมื่อปี 2022

กทม.เนรมิตเมือง 15 นาทีเป็นจริง สร้างพื้นที่สีเขียวอิ่มเอมใจทั่วกรุง

กทม.ทวีความรุนแรง เมืองจมฝุ่น การจราจรติดขัด ขาดแหล่งอาหาร สำรวจคนกรุงเผชิญรถติดเฉลี่ยวันละ 2 ชั่วโมง หรือใน 1 ปีชีวิตติดหนึบอยู่บนรถเท่ากับ

ไขคำตอบ..ออกกำลังกายเป็นนิจ ตัวช่วยอายุยืนยาวห่างไกล NCDs

อุบัติการณ์โรคในยุคนี้ปรากฏว่า "โรคไม่ติดต่อ (NCDs)" กลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 คิดเป็น 75% ของสาเหตุการเสียชีวิตทั้งหมด หรือเกือบ 4 แสนคนต่อปี

เปิดผลสำรวจวัยโจ๋ ขีดเส้นสนามกีฬาฟุตซอล ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน

เครือข่ายงดเหล้า และสสส. ส่งเสริมกีฬาเยาวชนจัดฟุตซอล No-L ชิงถ้วยพระราชทานฯ รร. ราชวินิต มัธยม คว้าแชมป์ไปครองสมัยที่ 2 ด้วยสกอร์ 6:0 ในขณะที่ผลสำรวจร้อยละ 90 ต้องการให้สนามแข่งไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน และร้อยละ 84.8 คิดว่ากีฬาฟุตซอลทำให้เยาวชนเห็นคุณค่าของตัวเอง