นี่ซิ…วงการ “สีกากี” ไม่ทันที่ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. จะเก็บของออกจากห้องทำงานหมด หลัง บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ชัดเจนแบบไม่ต้องเดา ไม่ต้องคาดการณ์ การแต่งตั้ง “นายพล” วาระประจำปี 2567 ปลายปีนี้ ผู้ที่มีอำนาจจัดทำบัญชีแต่งตั้งครั้งนี้
ไม่ใช่ บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อย่างแน่นอน!!!

พอทุกอย่างลงตัว คลื่นลมสงบ สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย หมายเรียกหมายจับ เริ่มขับเคลื่อนไปตามกระบวนการยุติธรรม
ทิศทาง “สีกากี” ก็เลยชัดเจน แจ่มแจ้ง

เห็นท่าทีขึงขัง เอาจริงเอาจัง ในการปราบปรามการพนันทั้งแบบ “ออนไลน์” และแบบ “บ่อนพนัน” ของ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาการแทน ผบ.ตร. ถึงขนาดมีนโยบายชัดเจน

มีสัญญาณที่น่าสนใจ ที่น่าจับตา ภายในรั้ว “กรมปทุมวัน” หลังจากนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเด้งแพ็กคู่ 2 นายพล ทั้ง บิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และบิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าปฏิบัติราชการสำนักนายกรัฐมนตรี

ช่วงนี้ขออนุญาตไม่รับนัดใคร ไม่ขอไปไหนไกลเกิน 2 ลี้ เดี๋ยวลุกจากเก้าอี้แถวหน้าเวทีมหกรรมแห่งการแฉ “แวดวงสีกากี” แล้วจะเสียม้า เสียที่ ไม่ได้ยินเรื่องราวเต็มสองหู ไม่ได้เห็นด้วยตาแบบชัดๆ

ก็เข้าใจอยู่แหละ ท่าที “ตำรวจ” จากผลพวง 2 ปมร้อน 2 ประเด็นใหญ่ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทั้งเรื่อง “ฝรั่งเตะหมอภูเก็ต” และ “วันกะเทยผ่านศึก”

ไม่เสียแรงได้รับฉายาจากสื่อสายอาชญากรรมว่า “มือปราบสายธรรมะ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี สามารถสงบศึก “น้ำลาย” ระหว่าง 2 บิ๊กตำรวจ ได้ภายใน 3 วัน

ประเด็นร้อนๆ ในแวดวง “สีกากี” อันเป็นผลพวงมาจากคดีเว็บพนันฟุตบอลเครือข่ายมินนี่ ที่ล่าสุดลามมาถึง “บิ๊กสีกากี” เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง

เมื่อช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้เห็นเพจ “พนักงานสอบสวนหญิง” โพสต์ข้อความที่น่าสนใจ ที่ผู้ใหญ่ ผู้บังคับบัญชา น่าจะรับรู้ รับฟัง เลยต้องขออนุญาตนำโพสต์ดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อ

“ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน” คำสุภาษิตไทยๆ ที่ดูจะเหมาะกับสถานการณ์ภายใน “กรมปทุมวัน” ช่วงเวลาที่มีความคลุมเครือ ในการแต่งตั้ง “นายพล” วาระเดือนเมษายน

อ้าว…. กระแสข่าวลือภายในรั้ว “กรมปทุมวัน” ช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ในทำนองจะมีการขอต่ออายุราชการให้ “ตำรวจ” ระดับ “นายพล” บางคน บางตำแหน่ง ภายหลังเกษียณอายุราชการประจำปี 2567

น่าสนใจทีเดียวกับการแต่งตั้ง รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และทีมงานโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพิ่มเติมครั้งล่าสุด ที่ ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล แม่ทัพใหญ่สีกากี สะบัดปากกาคำสั่ง ในหนังสือ ตร. ที่ 51/2567 ลงวันที่ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา

เอาแล้วซิ! คดีป้าบัวผัน ที่ “ลุงเปี๊ยก” สามี ออกมารับสารภาพว่าเป็นคนฆ่าป้าบัวผัน ก่อนที่วงจรปิดจะเป็นหลักฐานสำคัญ มัดกลุ่มเยาวชน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นลูกชายนายตำรวจเป็นผู้ลงมือฆ่าป้าบัวผัน

อึ้งกิมกี่! กับท่าที “ผู้มีอำนาจ” ใน “กรมปทุมวัน” หลังจากมีคลิปที่ถูกอ้างว่าเป็น “บิ๊ก ตร.” กล่าวในระหว่างมอบนโยบายแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา ในลักษณะ “กร่าง” ไม่เกรงกลัวกระบวนการตรวจสอบตามกระบวนการยุติธรรม

กว่าจะชัดเจนเป็นรูปธรรมก็กินเวลาข้ามปี การโยก บิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ข้ามห้วยจากรั้วปทุมวัน มานั่ง เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (เลขาฯ สมช.)

การช่วงชิง “ผู้นำสีกากี” เจ้าของรหัส “พิทักษ์ 1” ในปี 2566 ที่ว่าเดือดปุดๆ เพราะ 3 แคนดิเดตต่างก็มีดีไม่แพ้กัน ทั้งบิ๊กรอย-พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 1, บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.อาวุโสลำดับ 2 และบิ๊กต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รอง ผบ.ตร.อาวุโสท้ายสุด

ไม่รู้จะเสียบดอกไม้ หรือจะให้ก้อนอิฐเป็นของขวัญ “ตำรวจ” ยุคที่มี ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล กุมบังเหียน “แม่ทัพสีกากี” ดี

อะพิโธ่ อะพิธัง “สีกากี” นึกว่า “ผู้บังคับบัญชา” จะเป็นที่พึ่งให้ “ตำรวจ” ไร้เส้น ไร้สาย ได้ลืมตาอ้าปากในการแต่งตั้ง “นายพัน” ตำแหน่ง รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) – สารวัตร (สว.) วาระประจำปี 2566

ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา น่าจะเป็นคำเปรียบเปรยที่อยู่ในใจใครหลายคนที่ติดตาม “โผตำรวจ” ปีนี้