ปกติพุทธศาสนิกชนส่วนใหญ่เมื่อเดินเข้าวัด นอกจากตั้งใจเข้าไปทำบุญ ฟังธรรม หรือสวดมนต์ภาวนาเจริญสติแล้ว ก็ไม่พ้นการกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธื์ หรือแม้แต่อธิษฐานจิตขอนั่นขอนี่เพื่อเป็นมงคลแก่ชีวิตของตนเองและครอบครัว

สังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่า ยิ่งอายุมากขึ้น เพื่อนกินก็หายากขึ้นเป็นเงาตามตัว แถมยังมีข่าวเพื่อนตายให้ได้ยินอยู่เป็นนิจ

วันสตรีสากล 8 มีนาคม..ปีนี้ มนุษย์ป้าอยากจะเชิญชวนมนุษย์ผู้หญิงลองแวะเวียนไปที่ “วัดเทพธิดารามวรวิหาร” บนถนนมหาไชย ถนนเดียวกับที่ใครๆ ก็รู้จัก “ร้านเจ๊ไฝ” หรือไม่ก็ผัดไททิพย์สมัย เป็นอย่างดีนั่นเอง

โลกดิจิทัลเป็นเรื่องของเทคโนโลยีสื่อสารสนเทศที่ก้าวไกลหยุดไม่อยู่ สามารถย่อโลกใบใหญ่ให้เหลือแค่อยู่บนจอมือถือได้อย่างน่าอัศจรรย์

สงสัยอยู่เหมือนกัน เมื่อวันที่ต้องยืนรอโบกเรียกแท็กซี่บริเวณเกาะดินแดง อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่า ทำไมบางคันป้ายไฟที่ระบุว่า “ว่าง” นั้นเป็นสีเขียว บางคันก็เป็นสีแดง

ถ้าไปวัดโพธิ์ เราก็ต้องคิดถึง “ยักษ์” ในสมัยป้ายังผูกคอซอง เราเคยได้ยินเพลงจากหนังพญาโศก ที่ร้องโฆษณาว่า ..ยักษ์วัดแจ้งแต่งตัวโก๋ ชวนยักษ์วัดโพธิ์ไปดูพญาโศก..555 จำได้แค่นี้แหละ เนื้อเรื่องของหนังเป็นยังไงจำไม่ได้แล้วล่ะ

ตามประสาคนเวลาเหลือน้อย พรรคเพื่อน..ชักชวนไปท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ “เยือนยล มนตรา มาตุคาม” ที่จัดโดยศูนย์ความรู้และประสานงานสุขภาวะทางปัญญา

คนที่ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้สูงวัย” ถือว่ามีทั้งมุมบวกและมุมลบให้เจอะเจอเป็นนิจ ขึ้นอยู่กับว่า สว.แต่ละคนนั้นจะมองมุมไหน และจะรับมือกับสถานการณ์ที่ต้องประสบอย่างไร..ก็เท่านั้น

ความดีความงามในฐานะ “พลเมือง” ของนักแสดงสาว “ดิว อิสรา” ที่ออกมาแจ้งเบาะแสธุรกรรมผิดกฎหมาย อาศัยคนในเครื่องแบบเป็นเกราะคุ้มกัน สร้างความเสียหายให้กับสังคมมากมายมหาศาล ดูเหมือนกำลังถูกทดสอบอย่างหนัก ด้วยการตั้งข้อกังขาเอากับ “พลเมืองดี” ว่า ทำเพราะแค้นเป็นการส่วนตัว

เพราะสัจธรรมโลกคือ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย คือทุกข์ แต่มากมายหลายคนเลือกวิธีที่จะให้พ้นทุกข์ด้วยการพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยไม่ศึกษาให้เข้าถึงพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับอริยสัจ 4

ในบรรดาประโยชน์อันเกิดจากโลกอินทอร์เน็ตนั้น เห็นจะเป็นการที่เรานึกอยากอ่านหรือหาเรื่องอะไรสักอย่างที่อยู่บนโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวที่เกิดในบ้านเรา หรือเรื่องในภาษาต่างประเทศอื่นๆ นั้น เราสามารถควานหาได้ โดยยืม google เป็นแผนที่ในการนำพา

มนุษย์ป้าอ่านเรื่องต่อชิ้นนี้แล้ว รู้สึกคึกคักขึ้นมาทันควัน ฉะนั้นก็ต้องขอนำมาแชร์ เพื่อกระตุ้นต่อมซึมเศร้าของวัยเกษียณทั้งหลาย ที่มักจะคิดเองและเหมาเอาว่า อายุปูนนี้…อย่าไปคิดทำอะไรที่โลดโผน จากนั้นก็นั่งลงจับเจ่าอยู่หน้าทีวี หรือไม่บางคนก็ท่องโลกอยู่แต่ในมือถือของตัวเอง ทำลายเวลาให้หมดไปวันๆ

ช่วงสัปดาห์นี้ แชร์กันคึกคักอย่างมากกับ “คลิปควันหลง” เทศกาลตรุษจีน @หาดใหญ่ จ.สงขลา เพราะเป็นการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินคนดังระดับเอเชียที่ชื่อ “ฟรานซิส ยิป”

กลายเป็นเรื่องปกติที่มาคู่กับเทศกาลตรุษจีนกันไปเลยสำหรับการแก้ปีชง ตามความเชื่อทางโหราศาสตร์แบบจีน ซึ่งมนุษย์ป้าจดจำได้ตั้งแต่เด็กๆ ว่า หม่าม้าจะไปกราบไหว้ขอพรและแก้ชงที่วัดเล่งเน่ยยี่ กับศาลเจ้าไต้ฮงกง ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งทุกครั้ง

ได้ยินได้ฟังกันทุกปี สำหรับประโยคในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งแปลจีนเป็นไทยได้ว่า

ปีกระต่ายนี้ นับว่าวันตรุษจีนมาบรรจบครบเร็วกว่าปกติ นั่นคือ วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคมศกนี้

น่าสนใจอย่างมากทีเดียว ที่มี “ลูกชาย” ของใครไม่รู้ ส่งข้อความถึงผู้อาวุโสทั้งหลาย ด้วยข้อความว่า “ห้ามดื้อนะครับ” แล้วก็ไล่เลียงว่า มี 9 ข้อห้ามเด็ดขาดสำหรับผู้สูงวัย (รวมทั้งไม่สูงวัยด้วยก็ได้) เพื่อชีวิตที่จะได้ชิลๆ ไม่ทำให้ลูกหลานเดือดร้อน

มนุษย์ป้ากล้าหาญชาญชัยไปปีนภูกระดึง อุทยานแห่งชาติ ณ อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลยมาเมื่อหลังปีใหม่สดๆร้อนๆ

ข้อความนี้ส่งต่อมาในไลน์ เหมือนจะต้อนรับปีใหม่ พร้อมกับฉลองการรับ “ของขวัญ” จากรัฐบาลลุงตู่ ในโครงการช้อปดีมีคืน ..น่าสนใจมากถึงมากที่สุดค่ะ..ลองอ่านเลย

ชีวิตกลับสู่ภาวะปกติกันเรียบร้อยแล้วกระมัง สำหรับวันนี้!! เมื่อสุข สดชื่น ถ้วนหน้า หลังฉลองต้อนรับปี 2566 จากนี้ไปก็ต้องเดินหน้าสู่ทิศทางที่ตัวเองตั้งใจและวาดหวังไว้